28/6/56

เราจะแก้ปัญหาสายไฟระโยงระยางได้ยังไง


วันก่อนระหว่างขับรถมาทำงาน ถนนแถวบ้านกำลังขยาย แต่ว่ารถก็ยังต้องขับกันเบียดๆ เหมือนเดิม เพราะติดเสาไฟที่ย้ายไม่ได้ และก็มีสายไฟระโยงระยางอยู่ ผมเริ่มคิด และได้คำตอบอย่างรวดเร็วว่า

เพราะมันคือเสาไฟฟ้า มันคือเสาของการไฟฟ้า แล้วพอใครจะเดินสายอะไร ก็เอามาแขวนเพิ่มไว้บนเสาที่มีอยู่

แน่นอนว่าการเดินท่อไว้ใต้ดินย่อมสะอาดตากว่า แต่ในบางจุดก็อาจยังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนครับ ดังนั้นขอเสนอโซลูชั่นครับ
  • รัฐออกกฏ ห้ามใครวางเสาที่ใช้เดินสายไฟ หรือสายส่งข้อมูลต่างๆ
  • คนตั้งเสาได้คือกรมทางหลวง
แปลว่า กรมทางหลวงจะขยับเสาได้ตามใจชอบ ซึ่งมันจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเสมอ อันนี้อาจลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย เพราะกรมทางหลวงต้องวางเสาไฟส่องสว่างอยู่แล้ว เมื่อกรมทางหลวงสามารถขยับเสาได้เอง เราก็จะไม่เห็นสายไฟที่ทะลุสะพานลอยได้อีก

การเดินสายไฟ ก็เดินตามสล๊อตเอา คือ มันไม่ได้จำเป็นจะต้องเอาสายไปวางในระดับความสูงเดียวกัน มันอาจจะวางลดหลั่นกันลงมาก็ได้ เพียงแค่ไม่ให้มันต่ำเกินไปนัก แล้วก็ไม่ให้มันพันกัน อาจจะแยกสีของสายซะหน่อยเพื่อให้รู้ว่ามันเป็นสายของใคร หรือเป็นสายอะไร แล้วคนที่จะเอาสายไปเดินได้ ก็จะต้องจ่ายค่าวางสายให้กรมทางหลวง ซึ่งก็จะมีคนจากที่เดียวที่จัดการกับสายไฟได้ ไม่ใช่ว่าช่างจากที่ไหนไม่รู้ เอาบันไดมาตั้ง ปีนๆ ขึ้นไปแล้วจะทำอะไรก็ได้

เลือกตั้งปีหน้าเลือกผมนะ ผมจะทำ

เราจะหยุดการทำแท้งเถื่อนอย่างไร


เราจะหยุดการทำแท้งเถื่อนอย่างไร อันนี้เป็นคำถามที่ได้มาจากรายการทีวีเมื่อวาน

คำถามนี้เป็นคำถามเดียว/เชื่อมโยงกับ เราจะหยุดรักในวัยเรียนยังไง เราจะหยุดปัญหาการท้องไม่พร้อมได้อย่างไร ผมมองว่า มันเป็นคำถามเดียวกัน หรืออย่างน้อย มันก็มาจากสาเหตุเดียวกัน คำถามประมาณนี้ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก (น่าจะถามมาก่อนรุ่นผมจะเกิดกันแล้ว) และทุกวันนี้ก็ยังคงถามกันอยู่

การตอบคำถามว่า เราจะหยุดการทำแท้งเถื่อนอย่างไร วิธีแก้ง่ายมาก ก็คือทำให้มันถูกกฏหมายสิ เหมือนรถตู้โดยสารไง พอปราบไม่ไหวก็เอาสติกเกอร์ ขสมก. มาแปะเลย ? แต่อันนี้คงทำไม่ได้ง่ายๆ ภายใต้ขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย

มุมมองของการทำแท้งต่อพวกเราเป็นยังไง แน่นอนว่า ภายใต้เมืองพุทธอันดีนี้ การทำแท้งถือเป็นเรื่องผิดบาปอย่างมหันต์ แต่ผมอยากให้ลองมองอีกมุมครับ ว่าถ้าพ่อแม่ไม่พร้อม แล้วปล่อยให้มีประชากรเพิ่มขึ้นมาอีกคน แล้วเลี้ยงดูให้เป็นคนดีไม่ได้ เขาจะต้องกลายเป็นปัญหาสังคมแน่ หรือไม่ก็มีแนวโน้วสูงที่จะเป็น ดังนั้น ถ้ามองในอีกมุมนึง คนที่เขาทำแท้งแปลว่า เขารู้ตัวว่าเขาเลี้ยงไม่ได้ จึงต้องรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งมันมีอยู่วิธีเดียวสำหรับเขา และถ้ามองในมุมนี้ คนที่ทำแท้งก็จะกลายเป็นคนที่ดีกว่าคนที่ปล่อยให้ลูกตัวเองออกมาเป็นภาระของสังคม แต่ผมจะไม่ถกในประเด็นนี้นะครับ เพราะอันนี้มันเป็นเรื่องของมุมมอง ถ้ามองกันคนละมุมแล้ว ถกยังไงก็ไม่จบครับ

กลับมาที่คำถามตั้งต้น ปัญหาหลักๆ ของปัญหานี้เลยคือ เรามองว่ามันเป็นปัญหา ปัจจุบันสิ่งที่เป็นอยู่คือ

  • เราบล๊อกเว็บโป๊
  • เรามองว่า การอี๊บกันเป็นเรื่องน่าอาย เป็นเรื่องเสียหาย
  • เด็กจะต้องระงับอารมณ์ทางเพศไว้ พวกเจ้าจงไปเตะบอล

ซึ่ง ทั้ง 3 อย่าง(หรือมากกว่า)นั้น ผิด สิ่งที่เราต้องทำคือ เราต้องยอมรับครับ เปิดใจให้ได้ว่า อารมณ์ทางเพศนั้น เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เพื่อให้มีการสืบพันธุ์ ถ้าไม่เงี่ยนมนุษย์สูญพันธุ์แน่ครับ

ผมยังมองทางแก้แบบโลกสวยไม่ออก แต่ถ้าเป็นผม

  • เลิกบล๊อกเว็บโป๊ครับ ให้เป็นวิชาเรียนในชั้นเพศศึกษาไป เลิกใช้ภาพวาดในหนังสือเรียนครับ วิดีโอมีให้ดูเยอะแยะ
  • มีวิชาปฏิบัติ ช่วยตัวเองทำไง ครูทำให้ดู เด็กในห้องก็ทำด้วย
  • โตหน่อยก็ให้มีวิชาร่วมเพศครับ อึ๊บกันยังไง จะป้องกันโรคและการตั้งครรภ์ยังไง อันนี้แน่นอนว่า มันไปอึ๊บกันนอกชั้นเรียนแน่นอน แต่เด็กเขาก็จะอี๊บกันถูกวิธีครับ

ด้วยวิธีข้างต้น คำถามที่ถามมาตั้งแต่ต้นจะลดลง และต้องเสริมความช่วยเหลือจากภาครัฐ ถ้าเด็กตั้งครรภ์แล้วไม่สามารถเลี้ยงได้ ให้รัฐรับเลี้ยงครับ พร้อมกับคุมกำเนิดพ่อและแม่ไปเลย ขึ้นบัญชีดำ ห้าม รพ. แก้การทำหมัน มีตังค์เลี้ยงลูกแล้วมาแสดงตัวกับรัฐได้ก่อนค่อยเอาเด็กคืนไป แล้วค่อยมีสิทธิ์จะมีลูกเพิ่มได้อีก

แน่นอนว่าช่วงแรก รัฐจะรับเลี้ยงเด็กเยอะเลย แต่เด็กที่รัฐรับเลี้ยงก็จะมีโอกาสซ้ำรอยพ่อแม่ลดลง เพราะไม่ได้อยู่ในสังคมและสภาพแวดล้อมแบบเดียวกับพ่อแม่ของเขา

ปัญหาใหม่คือ เราจะเปิดใจรับแนวคิดที่ออกจะฟรีเซ็กซ์ได้หรือไม่ เพราะเราเกิดมาในสังคมและยุคสมัยที่มองว่าการอึ๊บนั้นผิด เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ซึ่งแนวคิดแบบนี้มันก็เหมือนๆ กับที่บางประเทศมีค่านิยมว่า ญ ต้องแต่งตัวมิดชิด (โผล่ออกมาได้แค่ลูกตา) สามีเธอเท่านั้นที่จะมองเห็นเรือนร่างของเธอได้ ซึ่งมันต่างกันที่ระดับความเข้มข้นเท่านั้นเอง

อันนี้เป็นวิธีหนึ่งครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดอีกวิธีนึงที่ออกจะดูเผด็จการสักหน่อย คือ

ทุกคนที่เกิดมา เมื่อถึงวัยเจริญพันธ์จะต้องถูกจับทำหมัน เมื่อมีหน้าที่การงาน และรายได้พอที่จะดูแลครอบครัวได้ จึงจะมีสิทธิ์มีลูกครับ ถ้าอันนี้จบเลย ไม่ต้องขัดกับศีลธรรมอันดี ไม่ต้องแก้ไขหรือต่อสู้กับแนวคิดอะไร

ผมเชื่อว่า คำถามลักษณะนี้จะมีต่อไปเรื่อยๆ ครับ จนผมตายไปแล้วก็น่าจะยังถามกันอยู่

25/6/56

ทำไมเราถึงกินข้าว


ทำไมเราถึงกินข้าว เป็นคำถามที่จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาในหัวระหว่างมื้อเที่ยง (ไม่เกี่ยวกับประเด็นจำนำข้าวนะครับ) คือ ผมเกิดสงสัยขึ้นมาว่า มันวิวัฒนาการมาอย่างไร ไอ้การกินข้าวเป็นอาหารหลักเนี่ย

ทั้งที่ข้าวนั้น

  • ผลิตยาก (ปลูก)
  • เก็บเกี่ยวยาก
  • จัดเก็บยาก
  • แปรรูปยาก (หุงให้เป็นข้าวสวย)

ผมลองพยายามนึกดูว่า ทำไมข้าวถึงกลายเป็นอาหารหลัก มนุษย์รู้ได้ยังไง ว่าต้องเอาเมล็ดของต้นหญ้านี้ มาแกะเปลือกออก แล้วเอามารวมกันมากๆ แล้วเอามาอบด้วยไอน้ำแล้วมันจะกินได้ มนุษย์สมัยโบราณควรจะท้อกับกระบวนการเหล่านี้จนไปกินอย่างอื่นแทนมากกว่า ไม่ใช่รึ

แน่นอนว่า การเลือกทานแป้งเป็นอาหารหลัก แทนที่จะเป็นผัก หรือเนื้อสัตว์น่าจะเป็นเพราะ มันหาง่าย (ไม่ต้องล่า) อิ่มท้อง ให้พลังงานได้มากกว่าผัก

แต่ทำไมอาหารหลักประเภทแป้งถึงไม่เป็นหัวมัน ที่น่าจะเพาะปลูกง่ายกว่า กระบวนการผลิต จัดเก็บ และแปรรูป น่าจะง่ายกว่า และถ้านึกถึงวิวัฒนาการ จากมนุษย์ดึกดำบรรพ์มาสู่ปัจจุบัน หากว่าเรากินมันเป็นอาหารหลัก มันจะยังพอนึกออกได้ง่ายกว่า

สรุปว่า ยังสงสัยอยู่ครับ ว่าที่มาที่ไปมันเป็นยังไง เราถึงกินข้าวเป็นอาหารหลัก

7/6/56

Attack of Titan


* โปรดระวัง สปอลย์ล้วนๆ

เขียนไม่ผิดครับ เพราะช่วงนี้โดน Titan โจมตีจริงๆ พลังโจมตีรุนแรงมาก เดิมทีหลังจากอ่านการ์ตูนเรื่องต่างๆ ไปจนอวสานกันหมด ก็พยายามไม่อ่านการ์ตูนอะไรอีก เพราะมันเป็นภาระมาก เหลือ One Piece เรื่องเดียวก็ภาระมากพอแล้ว แต่ช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนโดนโจมตีจากกระแส Titan เต็มวอลล์เฟซบุคเลย จนทนไม่ไหวต้องไปหามาอ่านดูบ้าง

หลังจากอ่านแล้ว พบว่า ติดเลยครับ หยุดไม่ได้ วิเคราะห์ดูแล้ว สาเหตุน่าจะ

  • เดินเรื่องเร็ว เป็นการ์ตูนที่เดินเรื่องเร็วมาก
  • ฉากแรกๆ แม่โดนกิน
  • ภาพรุนแรง ไม่ต้องลีลา โดนกินขาดครึ่งก็คือขาดครึ่ง
  • การต่อสู้จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ตอนก็จะจบเป็นฉากๆ ไป เทียบกับ One Piece แล้ว ตะลุยเกาะนึง แทบลืมไปเลยว่าจุดประสงค์มันจะไปไหนกันต่อ
  • ตอนที่ 42 ก็เจอไททันยักษ์แล้ว ไม่ต้องหากันให้นาน
  • กระชากความรู้สึกที่ทำให้เราได้ลองจินตนาการว่า ถ้าไม่ได้เป็นชนชั้นที่อยู่ในส่วนบนสุดของห่วงโซ่อาหารจะเป็นยังไง

ปัญหาขอเนื้อเรื่องที่รวบรัดคือ หลายๆ ครั้งอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง จริงๆ แล้วน่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายทอดเสียมากกว่า คือ คนวาดวาดแล้วไม่ค่อยสื่อในบางครั้ง

ผมชอบมากขนาดอ่านมังงะแล้วต้องดูอนิเมะด้วย ซึ่งก็ช่วยเสริมเรื่องความเข้าใจในเนื้อเรื่องได้อย่างดี

ก็เลยต้องได้มาเป็นภาระอีกเรื่อง :P