21/6/55

How to solve student gangster


เราจะแก้ปัญหานักเรียนตีกันได้อย่างไร นี่เป็นคำถามยอดฮิตที่ผมยังไม่เห็นคำตอบที่เหมาะสม และเนื่องจากผมเองก็เคยเป็นเด็กช่าง อยู่ในสังคมของกลุ่มเพื่อนประเภทนี้ถึง 5 ปี เรียกได้ว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ตรง ดังนั้นเลยอยากแนะวิธีแก้ปัญหาที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ใช่ข้อเสนอประเภท ปิดโรงเรียน กำหนดโทษประหาร อะไรประมาณนี้

วิธีแก้มีข้อเดียวเลย คือ ให้มีกิจกรรมระหว่างโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ รายละเอียดดังนี้

  • ไม่ใช่กิจกรรมที่แบ่งฝ่าย เช่น เตะบอลระหว่างโรงเรียน A และ โรงเรียน B
  • เป็นกิจกรรมสร้างสรร ที่ไม่มีการแข่งขัน เช่น ออกค่ายสร้างโรงเรียน
  • จัดเป็นกลุ่มย่อย เช่น ปี2 ห้อง1 ของทุกโรงเรียน ไปช่วยสร้างโรงเรียน A ที่ภาคใต้ ปี2 ห้อง2 ไปช่วยสร้างศาลาวัดที่ภาคอิสาน หรืออาจจัดเป็นกลุ่มเล็กกว่านี้ แต่ทุกโรงเรียนต้องได้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างทั่วถึง
  • จัดเวียนห้องเรียนไปเรื่อยๆ พยายามให้เด็กแต่ละโรงเรียนได้เป็นเพื่อนกัน ได้รู้จักกันให้มากที่สุด
  • กันเด็กหรือศิษย์เก่าที่อยู่นอกสายการศึกษา (พวกที่เรียนจบไปแล้ว) ออกไปอย่างน้อย 10 ปี (ประมาณว่า ฆ่าตัดตอน) พวกรุ่นพี่ห้ามเข้ามาในโรงเรียน ห้ามมาจัดเลี้ยงรุ่น หรือมาวุ่นวายในโรงเรียนเด็ดขาด ตรงนี้อาจโดนวิจารณ์ว่า เด็กจะขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่ในสายอาชีพ ทำให้อาจจะลำบากเรื่องการทำงานในอนาคต แต่อันนี้ต้องแลกล่ะ

เชื่อว่าเพื่อนบ้าพลังหลายๆ คนถ้าเห็นข้อแนะนำประมาณนี้ อาจบอกว่าไอ้เวรนี่ไม่รักโรงเรียน แต่ไอ้การที่ส่งเสริมการตีกันให้เป็นวัฒนธรรมเนี่ย มันบ่งบอกว่ารักโรงเรียนตรงไหน - -"

17/6/55

My first experience: iPhone and MBK


ได้รับสองประสบการณ์เหนือความคาดหมายสองอย่างพร้อมกัน ออกตัวก่อนว่า ผมไม่เคยมีประสบการณ์ทั้งการซื้อมือถือที่มาบุญครอง และประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์ iOS เลย

ท้าวความก่อนเข้าสู่ My first experience เนื่องจากพ่อผมอยากใช้ iPhone ซึ่งพ่อผมก็ใช้ iPhone จีน (iPhone4 ของปลอมราคา 1200 แถมเตารีดด้วย) ซึ่งผมก็ตั้งใจว่าจะซื้อ iPhone จริงให้พ่อได้ใช้บ้าง เพราะพ่อผมก็ไม่ค่อยยอมซื้อของดีๆ ใช้ เพราะจะเก็บตังค์อย่างเดียว ผมก็รอมาเรื่อย รอให้รุ่นเก่าราคาตก (ตั้งใจจะซื้อรุ่นเก่าให้ เพราะพ่อผมใช้แค่โทรอย่างเดียวอยู่แล้ว) ซึ่งก็รอแล้วรอเล่า จนล่าสุดคุณพ่อตาเพิ่งเสียไป ซึ่งแกก็ได้ BlackBerky (ชื่อ BlackBerky นะ ไม่ใช่ BlackBerry) รุ่นที่เป็นกระดาษเผาไปให้ ซึ่งมันจะไปถึงรึเปล่าก็ไม่รู้ แล้วถ้าไปถึง มันจะไปถึงเป็นมือถือจริงๆ หรือไปเป็นมือถือกระดาษ หรือไปเป็นขี้เถ้า เราก็ไม่อาจทราบได้ เลยเกิดสะท้อนใจขึ้นมาว่า ผมไม่อยากรอจนต้องซื้อมือถือกระดาษให้พ่อ ในเมื่อพ่อยังอยู่ที่จะใช้ iPhone จริงๆ ได้ ผมจะยังรอไปทำไม เมื่อตัดสินใจได้ผมก็ควบรถไฟฟ้าไปมาบุญครองอย่างไม่ลังเล โดยผมเล็งเป็น iPhone 3G หรือ 3Gs ไว้ เพราะดูๆ ราคามาพักใหญ่แล้ว

ถึงมาบุญครอง ผมก็เดินดูอย่างเร็วๆ เพราะต้องรีบกลับไปเผาพ่อตา (ชิ่งออกมาหลังสวดเช้าเสร็จ) ได้ตัวเลขราคาที่ 6500 และ 8500 สำหรับ 3G และ 3Gs ก็เลยบอกร้านไปว่า ขอ 3Gs ตัวนึง ไม่ลงโปรแกรม ไม่เจลเบรค ซึ่งที่ร้านก็ไม่มีของ ก็วิ่งๆ ไปหาของที่ร้านอื่นมาให้ ซึ่งผมก็ไม่ซีเรียสที่จะโดนฟันกำไรบ้าง เพราะเราทำงานแล้วก็เข้าใจกันอยู่ของแค่นี้ไม่มีปัญหา พอเครื่องมาถึง ก็เป็นกล่อง iPhone 3Gs ห่อพลาสติกสวยงาม เป็นของมือหนึ่ง เพราะโดยปกติผมไม่ซื้อสินค้าอิเลคทรอนิคมือสองอยู่แล้ว คนขายแกะห่อออกมาพร้อมเปิดเครื่อง ผมก็กดๆ ดูว่า เออ ใช้งานได้ กดเช็ค OS ดูก็ปรากฏว่าเป็น iOS 4 ซึ่งก็โอเค ไม่มีปัญหา เดี๋ยวกลับไปอัปเกรดเอง ถึงบ้านพอเอาเครื่องให้พ่อปรากฏว่าพ่อไม่ยอมเอา ประมาณว่ารู้สึกว่าตัวเองจะใช้ไม่คุ้ม ก็เลยไม่รู้จะทำไงก็เป็นอันว่าเอาเครื่องนี้ให้เมียไป แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับเครื่องเพราะไม่ว่าง

เช้าวันรุ่งขึ้นก็พาพ่อตาไปลองอังคารในวันอาทิตย์ เสร็จก็ไปบ้านพี่สาวเมีย พี่แกเกิดจะให้อัป OS ของ iPhone 4 ให้ ซึ่งอย่างที่บอกว่าไม่มีประสบการณ์ เลยได้หาข้อมูลนิดนึงว่าเครื่องมันเจลหรือเปล่า (กลัวว่าเจลแล้วอัปเครื่องจะพัง) เลยได้รู้ว่าถ้าเครื่องเจลแล้วมันจะมีโปรแกรมชื่อ Cydia อยู่ในเครื่อง แต่ก็ไม่ได้อัปให้แก เพราะเน็ตที่บ้านเขาช้ามาก

พอกลับมาถึงบ้านเปิดเครื่องตัวเองดูเพื่อจะลงโปรแกรมแล้วตั้งค่าต่างๆ ให้เมียใช้ เปิดหน้าจอขึ้นมาเลื่อนๆ ดู ปรากฏว่า ในเครื่องเรามีโปรแกรม Cydia หว่ะ เปิด App Store ดู แม่งก็เสีอกขึ้นมาเป็นภาษาจีนสวยงามเลย ฉิบหายละ แม่งเอาเครื่องเหี้ยไรให้กูวะเนี่ย เริ่มเอะใจว่า มันอาจเป็นเครื่องมือสอง ที่เอามาทำแพกเกจใหม่ให้มันสวยๆ เพราะตอนหยิบดูหลังจากชาร์จเห็นว่าที่ตูดเครื่องตรงพอร์ตด้านล่างมันดูเยินๆ นิดนึง ก็เลย เอาละ กูโดนละไอ้มาบุญครอง ก็ไม่รู้จะทำไงเพราะซื้อมาแล้ว ถือเป็นค่าโง่ไป ก็ไม่ได้อยากจะปล่อยให้ลอยนวลนะ แต่ไม่รู้จะทำไง เพราะถ้าไปโวย มันก็ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่เครื่องร้านมัน หรือไม่ก็ เราเจลเองทำเยินเองแล้วมาโวย

กลับมาที่เครื่อง ก็เลยโหลด iTune มาเพื่อจะอัปเกรด iOS เป็น 5 ก็จิ้มๆ กดๆ ทำมั่วไปตามขั้นตอน ปรากฏว่าเครื่องบอกว่ามีปัญหาอะไรสักอย่างต้องคีนค่าโรงงาน ก็เริ่มสงสัย เอ หรือเพราะเครื่องมันเจลหว่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันอัปเกรดเสร็จเลยต้องรีเซตหรือว่ามันเป็นอะไร ก็เลยรีเซตไปตามขั้นตอนของมัน ปรากฏว่า มันก็ขึ้นหน้าจอคล้ายๆ ตอนที่เราเปิดใช้ Android ใหม่ ที่มีให้เลือกภาษาอะไรต่างๆ ก็กดไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้า Activate iPhone ปรากฏว่ามัน Activate ไม่ผ่าน ก็เลย สาดดด แม่งเพราะเจลแน่ๆ

เลยกดหาช้อมูลเรื่องการ Activate ดู ปรากฏว่า ไม่ใช่มีปัญหาเฉพาะเรา หรือเฉพาะเครื่องเจล เครื่องทั่วไปก็มีปัญหา หลักๆ ที่บ่นๆ กันคือ มันมีปัญหาที่ซิม (ผู้ให้บริการมือถือ) ที่อาจไม่ตรงกับตัวเครื่อง (คือ เครื่องนี้ไม่ได้ขายผ่านผู้ให้บริการรายนี้) ก็เลย iOS แม่งมีปัญหาหยุมหยิมจังวะ สุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่า ไอ้ที่ Activate ไม่ได้มันเป็นเพราะเครื่องเจล หรือเพราะเครือข่าย

ก็เลยได้บทเรียนสองข้อสำคัญของชีวิตว่า 1) อย่าซื้ออุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่มาบุญครอง 2) iOS ไม่เหมาะกับผม

One does not simply Try iOS and buy gadget from MBK without annoying

14/6/55

Selling overpriced


เมื่อวานไปธุระที่วัด ลูกสาวร้องกินไอติม ผมก็เดินไปซื้อ ไอติมรถเข็นขายไอติมแบบเดียวกับที่มีขายในเซเว่น (ที่ห่างไป 200 เมตร) แท่งละ 15 บาท แต่รถขายไอติมในวัดขายผมที่ 20 บาท ผมรู้สึกฉุนพอสมควรที่ถูกเอาเปรียบ สักพักผมเริ่มคิดได้ว่า เขามีต้นทุนชีวิตอยู่ และการค้ากำไรเกินควร มันก็ยังดีกว่าขอทานที่แบมือขอเงินเฉยๆ โดยไม่ทำอะไร

หลังจากนั้น ผมก็ซื้อไอติมโคนอีกอันให้ลูกชายในราคา 20 บาท โดยรถเข็นคิดราคาผมที่ 25 บาท ได้อย่างมีความสุข

13/6/55

How many I pay for Ensogo deal

มันเริ่มจากวันนึง ที่ผมสงสัยว่า เอ... นี่เราหมดเงินกับ Ensogo ไปเท่าไหร่แล้ววะ ผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปที่หน้าคูปองของ Ensogo เพื่อดูว่า นี่เราเคยซื้ออะไรไปเท่าไหร่แล้วมั่งเนี่ย ก็ได้ข้อมูลออกมาดังนี้

ดีลแรกผมซื้อเมื่อ 18/5/2011 และนี่คือรายการดีลทั้งหมดที่ผมเคยซื้อ
แทบจะทั้งหมดเป็นของกิน บ้าไปแล้ว แต่ถ้าไม่ของกินก็ไม่มีอะไรให้ซื้ออ่ะ

รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 6721 บาท ในระยะเวลาประมาณ 1 ปีพอดี เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละประมาณ 500 กว่าบาท สำหรับค่าสันทนาการครอบครัว โดยส่วนตัวแล้ว ถือว่าโอเค

ปล. ลืมไปว่ามี Groupon ที่ซื้อตอนไปมาเลด้วย น่าจะประมาณ 200 บาท ได้