29/2/55

Faith


ศรัทธา หมายถึงอะไร ผมไม่ค่อยแน่ใจเรื่องการตีความของความหมายอย่างแน่ชัดนัก แต่โดยทั่วไปที่เราเคยรู้จักกับคำว่าศรัทธานั้น ศรัทธาหมายถึงการเชื่อถือ ซึ่งเป็นคนละอันกับความเชื่อนะ คือ ความเชื่อไม่ใช่ศรัทธา แต่เราศรัทธาในความเชื่อ อันนี้น่าจะพอเห็นภาพ

โดยมากแล้วในสังคมปัจจุบัน พอพูดถึง ศรัทธา ความเชื่อ เราจะโยงไปถึงความงมงายโดยอัตโนมัติ แต่แท้จริงแล้ว เราจะทำอะไรได้น้อยมาก หากปราศจากศรัทธา คือ ศรัทธานี้ ไม่ใช่ความเชื่อก็จริง แต่มันก็หมายถึงความเชื่อถือโดยตัวมันเอง อย่างที่บอกว่า ถ้าปราศจากศรัทธา เราจะทำอะไรได้น้อยมาก เช่น สมัยเด็กพ่อสอนเราว่ายน้ำ ถ้าเราไม่ศรัทธาในตัวพ่อ ว่าพ่อว่ายน้ำได้ และสามารถช่วยเราไม่ให้จมน้ำได้ เราก็จะไม่ยอมให้พ่อสอนเราว่ายน้ำ เป็นต้น

ความศรัทธา และความเชื่อถือนี้ จะมีมากน้อยขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ด้วย โดยมากแล้วก็ขึ้นกับ ตัวผู้ที่จะศรัทธา หรือสิ่งที่เราจะศรัทธา (ผู้ที่เราศรัทธาสามารถเป็นตัวเราเองได้ด้วย) ตัวเราเอง และสภาพแวดล้อม ถ้าเราเชื่อ โดยปราศจากเหตุผลเลยจะกลายเป็นว่างมงาย (แต่ไม่มีใครเชื่อโดยปราศจากเหตุผลอยู่แล้ว แต่ขึ้นกับว่าเหตุผลของแต่ละคนนั้น) หรือถ้าเชื่อโดยที่สิ่งที่เราเชื่อนั้น น่าเชื่อถือ แต่กลับไม่เป็นจริง ก็จะกลายเป็นถูกหลอกไป

ศรัทธานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราตัดสินใจทำอะไรหรือไม่ ตัวอย่าง

ผมพลัดหลงไปโผล่ที่เกาะเอลูบาบู แล้วก็พบกับชาวเมือง ดอลลี่และโบกี้ ผมบอกกับเขาว่า ในอากาศนี้มีภาพ และเสียงลอยอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด แต่ร่างกายของเราไม่มีความสามารถที่จะรับข้อมูลเหล่านั้นได้ ถ้าคุณอยากเห็นสิ่งที่ผมเล่า คุณต้องช่วยผมสร้างสิ่งที่เรียกว่า ทีวี

จากตัวอย่าง ถ้าดูตามสภาพแวดล้อมของเกาะเอลูบาบู ที่ไม่เคยมีทีวีมาก่อน ต้องไม่มีใครเชื่อ และถ้าใครศรัทธา และลงมือสร้างทีวีตามคำบอกเล่าของผม ก็จะกลายเป็นพวกงมงายไปเลย

จบแค่นี้ดีกว่า ที่เหลือไปคิดต่อด้วยวิถีของแต่ละท่านเองดีกว่า สนุกดี

27/2/55

Parent


ผู้ปกครอง คำนี้ฟังน่าคิดดี เราสามารถเป็นอะไรกับลูกได้บ้าง


  • เป็นพ่อและแม่ คือ ผู้ให้กำเนิด เป็นสถานะที่ไม่มีวันเปลี่ยนได้ เหมือน Founder นั่นเอง
  • เป็นครู คือ ผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้และวิชาต่างๆ เป็นสถานะที่คงอยู่ แต่สามารถเลิกเป็นได้ คือ เมื่อลูกมีความรู้เหนือเรา เราก็ไม่สามารถเป็นครู (ในศาสตร์นั้นๆ) ได้อีกแลัว แต่เราก็ยังคงเคยเป็นครูอยู่ เพราะได้เคยให้ความรู้ในครั้งก่อนๆ ไว้
  • เป็นเพื่อน คำว่าเพื่อนนี้มีความหมายที่มากกว่าเพื่อนเล่น หรือเพื่อนเที่ยว คือจะต้องเป็นที่ปรึกษาได้ พูดคุยในเรื่องที่เราไม่กล้าที่จะคุยกับพ่อแม่ หรือครูได้ ให้ความสนุกสนาน คุยเล่นได้ แก้เหงาได้
  • เป็นผู้ปกครอง คือ ให้ความคุ้มครองดูแล สถานะนี้สามารถเปลี่ยนได้ เมื่อเขาโตจนกระทั่งดูแลตัวเองได้แล้ว เขาจะไม่ต้องการผู้ปกครองอีก เพราะเขาต้องการที่จะปกครองตัวเองมากกว่า หรือเมื่อเขาจากเราไปอยู่ภายใต้ความดูแลของคนอื่น เขาก็จะมีคนอื่นเป็นผู้ปกครอง


คำว่าผู้ปกครองเป็นคนที่น่าสนใจดี สังเกตว่า เราสามารถเป็นเจ้าของสิ่งใดๆ ได้ เช่น จับกระรอกมา แล้วใส่กรงเลี้ยงไว้ เราก็บอกได้ว่าเราเป็นเจ้าของ หรือเราเก็บของที่สามารถระบุตัวเจ้าของได้ เราก็สามารถแต่งตั้งตัวเองเป็นเจ้าของได้ แต่เราไม่สามารถเป็นเจ้าของมนุษย์ได้ (ในสมัยนี้) แม้ว่ามนุษย์นั้นจะเป็นมนุษย์ลูกที่เราสร้างขึ้นมาเองเราก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ เราเป็นได้แค่ผู้ปกครองเท่านั้น

คำว่าเจ้าของฟังดูเหมือนเราจะมีสิทธิ์ขาดในสิ่งนั้นๆ ได้ แต่ผู้ปกครองนั้นคำค่อนข้างชัดเจนว่ามีสิทธิ์แค่ปกครองเท่านั้น ในบางประเทศถ้าเราปกครองได้ไม่ดี รัฐมีสิทธิ์ยึดไปดูแลเองด้วยซ้ำ

ดังนั้นในฐานะของผู้ปกครองแล้ว ให้เราระลึกไว้เสมอว่า เราสามารถปกครองเขาได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ถึงเวลาที่เขาเลือกที่จะปกครองตัวเองเมื่อไหร่ เราก็ต้องทำใจยอมรับ และสิ่งสำคัญของการปกครองนั้น เราต้องปูพื้นฐานของการปกครองตนเอง เพื่อให้เขาสามารถปกครองตนเองได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพเมื่อเขาพร้อม

My son almost teenager


พอดีเริ่มโต (10ขวบแล้ว) และรู้สึกว่าพักหลังๆ จะมีปัญหากับแม่อยู่บ่อยๆ เนื่องจากผมเป็นลูกคนเดียวและตอนเด็กๆ ก็ไม่ค่อยจะมีปัญหากับพ่อแม่เท่าไหร่นัก เลยไม่คุ้นเคยกับปัญหาของความเป็นวัยรุ่น แต่ในตอนนี้สภาวะดังกล่าวกำลังดำเนินเข้าสู่ครอบครัว และคงเป็นผมเท่านั้นที่จะบรรเทาภัยได้

ภัยของการเป็นวัยรุ่นคือ การไม่สามารถเข้าหาผู้ปกครองได้ เนื่องจากความไม่เข้าใจกัน และเมื่อไม่เข้าหาผู้ปกครอง แปลว่าเขาจะไปเข้าหาคนอื่น และเราจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคนที่เขาเข้าหานั้นจะหยิบยื่นอะไรให้กับลูกเรา

ปัญหาของที่บ้านในตอนนี้เป็นเรื่องของการสื่อสาร

ตัวอย่าง

แม่: ทำไมลูกปล่อยให้น้องรื้อของขนาดนี้
ลูก: ก็หนูไม่รู้ หนูอยู่ข้างบน

ตามตัวอย่างนี้ แฟนผมก็จะโวยลูกชายว่า "อย่ามาเถียงนะ" ซึ่งคุณลูกชายก็จะไม่พอใจอีก เพราะเขาไม่ได้เถียง แต่เขาพยายามอธิบายเหตุผล ซึ่งก็ปกติ เพราะเขาก็อยู่ในวัยที่มีเหตุมีผลแล้ว

ปัญหาหลักๆ ของแฟนผมคือ เขาจะรู้สึกว่าคนอื่นต้องเข้าใจเขา แต่ในเวลานี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะตัวเขาต่างหากที่ต้องเข้าใจลูก

ตอนนี้ยังไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เพราะถ้าพยายามคุยกับแฟน เขาก็จะพยายามบอกให้ผมเข้าใจเขา และให้ลูกเข้าใจเขา ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และลูกต่างหากที่กำลังต้องการคนเข้าใจ

เท่าที่ผมพอจะทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือ ให้ลูกรู้สึกว่าเป็นที่พึ่งได้ คืออย่างน้อยคุยกับแม่ไม่รู้เรื่องคุยกับพ่อก็ได้วะ เพื่อไม่ให้หันหน้าไปหาคนอื่น ยิ่งตอนนี้เวลาก็งวดเข้ามาทุกที เหลืออีกไม่กี่ปีลูกก็จะเข้าสู่วัยรุ่นเต็มตัวละ และถึงตอนนั้นจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ หนักใจ - -"

24/2/55

ฝึกปลูกผัก

ตั้งใจว่าจะลองปลูกฝักกินเองมาพักใหญ่ละ แต่เพิ่งมีโอกาสได้ปลูก คือ หาซื้อเมล็ดค่อยข้างยาก

ซื้อเมล็ดยี่ห้ออะไรมาไม่รู้ พรวนดิน โรยเมล็ดลงไป คลุกๆ กับดินอีกที แล้วก็พรมน้ำ ประมาณว่าขี้เกียจ จะเอาเร็วเป็นหลัก ปรากฏว่ามันขึ้นดีมาก แทบจะ 100% ของเมล็ดที่โรยลงไปเลย เลยได้บทเรียนว่า มันแน่นไป ต้องห่างๆ หน่อย (คือ ไม่นึกว่ามันจะขึ้นซะ 100%) คราวหน้าต้องวางแผนให้ดีนิดนึง แต่เรื่องเพาะต้นกล้าแล้วค่อยลงดินนี่ไม่ใช่ผมแน่ๆ

ปลูกมาได้สักเดือนละ แต่ต้นยังไม่โตพอที่จะกินได้ คิดว่าใช้เวลาสัก 2.5-3 เดือนน่าจะได้กิน

ต้นที่ปลูกตอนนี้มี ผักกาดขาว กับ คะน้า ที่ใช้เมล็ดที่ซื้อมา นอกจากนี้ก็มี ส้ม ที่ปลูกจากเมล็ดที่กินผลไป แล้วก็มีบวบ ที่ได้เมล็ดมาจากไหนไม่รู้ ปลูกไป 3 เมล็ดขึ้นหมดเลย ปลูกไว้ใต้ต้นมะม่วง คงไม่ย้ายละต้องปล่อยให้เลื้อยมะม่วงไป นอกจากนี้ก็มีมะพร้าว 3 ต้นที่ซื้อมา แล้วก็ข้าวโพดงอกขึ้นมา 2 ต้น จากอาหารไก่ที่หล่นตามพื้น แล้วก็กระเพรากับโหระพาที่เด็ดใบไปกินแล้วเอาต้นมาเสียบๆ ไว้





อันนี้ภาพเมื่อสักสองอาทิตย์ที่แล้ว ไว้มีเวลาจะขนภาพชุดใหญ่มาลง

ที่บ้านยังพอมีบริเวณอีก แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ แต่ปลูกผักกินเองนี่ฝันมานานละ

15/2/55

Move to blogger

เคยสมัครใช้ Blogger อยู่นานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ใช้ เพราะตัดสินใจตั้ง Drupal ใช้เองเพื่อให้ได้ความสามารถบางอย่างที่เราต้องการ กาลเวลาผ่านไป ถึงตอนนี้เปลี่ยนใจย้ายกลับมาที่ Blogger อีกครั้ง เนื่องจากรู้สึกล้า (จริงๆ คือ เบื่อ) กับการต้องมาคอยตามอัปเดต Drupal คอมซ่อมแซมระบบ คือดูแลเองมันเหนื่อย เลยตัดสินใจย้ายกลับมาที่ Blogger อีกครั้ง จริงๆ พยายามอยู่นานมากละ แต่ Export ข้อมูลจาก Drupal ให้ได้ ตรงมาตรฐาน XML ของ Blogger ที่จะใช้ Import นี่มันยากมาก ก็เลยย้ายมาก่อนเลยละกันวะ

ส่วนของ Domain ก็มีปัญหากับ Dreamhost คือ มันไม่ยอมให้แก้ DNS ของ Domain มันให้แก้แค่ของ Sub-domain เท่านั้น เลยต้องตั้งเป็น blog.gumara.com ไป แล้วค่อย Redirect gumara.com มาอีกที ดูวุ่นวายไปหน่อย แต่ก็จัดการไปซะให้มันจบๆ ไป ไม่ไหวจะดูแล Drupal ละ ส่วน Content เก่าๆ จะค่อยๆ ย้ายมารวมไว้อีกที

สำหรับ Drupal ที่ gumara.com ก็ใช้มาตั้งแต่ตอนที่ Drupal มันขึ้นเวอร์ชั่น 4 ใหม่ จนมาจบอายุที่เวอร์ชั่น 7 ก็ถือว่าใช้งานมานานมาก ถึงตอนนี้ย้ายมาเป็น Blogger แล้ว ความสะดวกคงมากขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องเสียความยืดหยุดบางอย่างที่เราจะสามารถทำได้ไป แต่ก็คงต้องยอมรับละ คือ ต้องเลือกเอาสักทาง

อ่อ แล้วก็ ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกของ SAAS ครับ