4/11/58

A year passed MDD cure

ผ่านไป 1 ปี กับการเริ่มรักษาโรคซึมเศร้า พบว่าเรามันเป็นเรื้อรังจริงๆ คงได้กินยายาว ในา่สนของการรักษา วิธีที่ดีที่สุดคือ การออกจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ ผมนึกถึงหนังเรื่อง "แฝด" ที่นางเอกมีอาการทางประสาท แล้วหมอแนะนำว่า "แค่กลับไปอยู่เกาหลีก็หายแล้ว" มันคือ แบบนั้นจริงๆ คือ ต้องออกจากสภาพแวดล้อมเดิม

แต่ในส่วนของผม ผมเลือกคงสภาพแวดล้อมเดิมไว้ อาจเพราะความฝังใจในวัยเด็กที่ความสัมพันธ์ครอบครัวไม่ค่อยดีนัก ผมจึงพยายามอย่างมากที่จะคงสภาพครอบครัวไว้ ก็คงเป็นปมในวัยเด็กเหมือนที่คนอื่นๆ ก็มีปมของแต่ละคน

คิดว่าอาการจะดีขึ้นได้คงต้องรอลูกโตเลย แต่เท่าที่สังเกตจากตัวเองแล้ว ด้วยสภาพแวดล้อมคิดว่าไม่หายแน่ๆ คงได้เป็นเพื่อนแท้และตายไปพร้อมกัน

รักเธอ MDD

3 month passed. without social

ผ่านไปแล้ว 3 เดือน กับชีวิตที่ปราศจากสมาร์ทโฟน และโซเชียลเน็ตเวิร์ค

โดยความรู้สึกของผู้ป่วยแล้วก็ถือว่าดีเลย คือ ไม่ต้องมากังวลว่า วันไหนเมียจะขุดเรื่องใคร Like ใคร Follow ทำไมเป็นเพื่อนคนนี้ ทำไมคุยกับคนนั้น คือ ปลอดภัยสบายตัวสุดๆ

ในแง่ของสังคมแล้ว เป็นอันว่าเหลือแค่ครอบครัวกับเพื่อนที่ทำงาน

ในส่วนของอาชีพการงานถือว่าเป็นปัญหาไม่น้อย เพราะในสายงานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีแล้ว เป็นอันว่าเราจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่าง mob F5 หรือพี่โดมไปเปิด domecloud.io อะไรพวกนี้คือ ผมไม่รู้เรื่องเลย เป็นคนนอกวงการโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งที่โดยอาชีพแล้ว เราควรจะรู้ก่อน

การติดต่องานกับผู้คนก็เป็นไปได้ยาก เพราะช่องทางการติดต่อเหลือเพียงมือถือกับอีเมล ซึ่งปกติแล้วก็จะต้องติดต่อกันผ่าน Facebook หรือ Line

ในส่วนของสมาร์ทโฟน พอเปลี่ยนมาใช้ Feature phone แล้วก็เริ่มจะชินบ้าง แต่ก็ติดต่ออะไรใครไม่ได้สะดวกนัก จะใช้เครื่องมือต่างๆ ของ Google ก็ไม่ได้เลย เรื่องถ่ายภาพไม่ต้องถามถึง เรื่องเทคโนโลยีก็ ใครมาถามอะไรเกี่ยวกับการใช้งาน Android นี่ก็คือแทบไม่รู้เรื่องแล้ว

ก็เป็นความยากลำบากอันนึงของชีวิต แต่แลกกับการมีชีวิตครอบครัวที่สงบสุขแล้ว จะบอกว่าคุ้มก็น้อยไป